“ผามออีแดง”ชื่อนี้สำหรับคนต่างถิ่นแล้วอาจจะไม่รู้จักกันสักเท่าไร แต่สำหรับคนในจังหวัดศรีสะเกษหรือจังหวัดใกล้เคียงจะรู้จักกันดี เพราะว่า "ผามออีแดง" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษเลยก็ว่าได้ค่ะ
"ผามออีแดง" ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อยู่บริเวณใกล้เคียงกับทางเดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะประมาณ 300 เมตร บริเวณใกล้เคียงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมโบราณสถานสถูปคู่รูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ส่วนบนกลมข้างในเป็นโพรง สำหรับบรรจุสิ่งของสร้างด้วยหินทรายแดง ขนาดกว้าง 1.93 เมตร ยาว 4.2 เมตร ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
"ผามออีแดง" ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อยู่บริเวณใกล้เคียงกับทางเดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร เป็นหน้าผาสูงชันกั้นเขตแดนประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตลอดแนวผามออีแดงมีระยะประมาณ 300 เมตร บริเวณใกล้เคียงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมโบราณสถานสถูปคู่รูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ส่วนบนกลมข้างในเป็นโพรง สำหรับบรรจุสิ่งของสร้างด้วยหินทรายแดง ขนาดกว้าง 1.93 เมตร ยาว 4.2 เมตร ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์
ผามออีแดง
เป็นเนินผาสูงลาดชัน 45
องศา หรือเดิมเรียกว่า เนิน 45
เมื่อปี พ.ศ. 2504
ได้มีคณะครูแดงจำนวน 30
คนได้เดินทางมาเที่ยว ปราสาทพระวิหาร รถของคณะครูแดงได้ประสบอุบัติเหตุบริเวณเนิน 45
จึงทำให้ครูแดงเสียชีวิตและได้มาปรากฏกายให้เจ้าหน้าที่พบเห็นบ่อยครั้ง
จึงเป็นที่เล่าขานกันมาถึงตำนาน ผามออีแดง ถึงปัจจุบันนี้ค่ะ
·
ผา
คือ หน้าผา
·
มอ
คือ เนินหรือที่สูง
·
อี
คือ นาง (สรรพนามเรียก ผู้หญิง
ในภาษาอีสาน)
·
แดง
คือ ชื่อเล่นของ ครูแดง
ผามออีแดงนับเป็นจุดชมวิวในมุมสูงที่สวยงามแห่งหนึ่งในภาคอีสานก็ว่าได้ เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างของแผ่นดินประเทศกัมพูชาที่อยู่ต่ำลงไป ประกอบกับป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มากมาย ฝูงสัตว์ที่นักท่องเที่ยวจะได้เจอบ่อยที่สุด ก็น่าจะเป็นฝูงค้างคาวตอนพระอาทิตย์ตกดิน และฝูงลิงมากมายวิ่งไปมาบริเวรหน้าผาที่สูงชัน
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้กล้องส่องทางไกล
ส่องดูปราสาทพระวิหารได้อีกด้วย
และบริเวณผามออีแดงมีภาพแกะสลักนูนต่ำเป็นภาพคน
3 คน
ในเครื่องแต่งกายแบบชาวกัมพูชา สร้างขึ้นก่อนปราสาทเขาพระวิหาร ราวกลางศตวรรษที่ 11 อายุประมาณ
1,500 ปี
มีโบราณวัตถุ พระพุทธรูปนาคปรก
มีบันไดลงไปชมภาพแกะสลักนูนต่ำบนผนังหินทรายอยู่ใต้หน้าผาที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกได้
และในช่วงฤดูหนาวของทุกปี แต่ช่วงปลายฝน – ต้นหนาว หรืออประมาณเดือน กันยายนและตุลาคม เป็นที่ทะเลหมอกหนาและสวยงาม ยิ่งถ้าวันเป็นเป็นวันหลังฝนตก ท่านก็ได้ชมความงามของทะเลหมอกที่หาดูที่อื่นไม่ได้อีกนอกจากที่แห่งนี้ ด้วยเสน่ห์ที่ชวนหลงใหลของทะเลหมอกจึงทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวชมความงามของ “ทะเลหมอก” และรับชม “พระอาทิตย์ขึ้น” ที่ผามออีแดงแห่งนี้
สำหรับท่านที่สนใจมาเยี่ยมชมนะค่ะ
ผามออีแดงเปิดให้บริการเวลา 05.30 – 16.30 น. ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
การเดินทาง สามารถเดินทางโดยใช้ รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ก็ได้ค่ะ ง่ายๆสะดวกสบาย เหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อน ไว้มาเที่ยวพักผ่อนที่ผามออีแดงกันเยอะๆน่ะค่ะ
ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : https://www.facebook.com/kantharalakphoto